12 ต้นไม้ในร่ม ปลูกในบ้านได้ ไม่ต้องการแดดจัด
1. กล้วยไม้

ลักษณะทั่วไป
กล้วยไม้เป็นพืชดอกที่มีสายหลากหลายสายพันธุ์ มีมากกว่า 800 สกุล และอีกกว่า 2 หมื่นชนิด ซึ่งแต่ละชนิดและสายพันธุ์ก็มีความแตกต่างทั้งสีสัน ลวดลาย กลิ่น รูปทรง และขนาดต้นรวมทั้งดอก อีกทั้งกล้วยไม้ยังเป็นพืชที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งกล้วยไม้ที่นิยมปลูกในประเทศไทยคือ กล้วยไม้แคทลียา ซึ่งมีดอกใหญ่ สีสันสวยงาม และมีกลิ่นหอม จนถูกยกให้เป็น ราชินีแห่งกล้วยไม้ โดยดอกกล้วยไม้จะมีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น และมีเกสรอยู่ภายใน ส่วนสีสันและรูปร่างก็อาจต่างกันไปตามสายพันธุ์ อีกทั้งยังปลูกในร่มได้อีกด้วย
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
การปลูกต้นกล้วยไม้มักจะปลูกตามชนิดของกล้วยไม้ แต่ส่วนมากจะปลูกในกระถางแบบแขวน ที่มีให้เลือกปลูกตามแต่ความเหมาะสม ตั้งแต่กระถางดินเผาทรงเตี้ย, กระถางดินเผาทรงสูง, กระเช้าไม้สัก, กระเช้าพลาสติก, กระถางดินเผามีรูก้นกระถาง, ท่อนไม้ที่มีเปลือก หรือจะปลูกติดกับต้นไม้ใหญ่ไปเลยก็ได้ ส่วนการรดน้ำและการดูแล ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้ง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการรดน้ำกล้วยไม้คือช่วงเช้า ตั้งแต่ 06.00-09.00 น. เพราะเป็นช่วงที่รากกล้วยไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถปลูกกล้วยไม้ในร่มได้ แต่ถ้าอยากให้ได้รับสารอาหารไวขึ้น ให้วางในจุดที่แดดส่องถึงรำไร หรือนำออกไปรับแสงอ่อน ๆ บ้างก็ยิ่งดี
2. เฟิร์นบอสตัน

ลักษณะทั่วไป
เฟิร์นบอสตันเป็นพืชตระกูลเฟิร์นชนิดหนึ่ง มีใบเขียวชะอุ่มคล้ายใบมะขาม ปลายใบไม่มีแฉก เป็นพืชที่ชอบความชื้น สามารถปลูกในร่มได้สบาย ๆ นอกจากนี้เฟิร์นบอสตันยังมีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษ และฟอกอากาศภายในบ้านได้อีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ในร่มยอดนิยมที่มักจะปลูกไว้ในบ้านหรือในอาคาร เพื่อเป็นไม้ประดับสวย ๆ
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
คุณสามารถปลูกเฟิร์นในที่ร่มได้สบาย ๆ แต่ควรรดน้ำให้เฟิร์นชุ่มพอดี อย่าปล่อยให้แฉะน้ำ เพราะเฟิร์นอาจเฉาตายได้ และถ้าขาดน้ำเมื่อไหร่ใบก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและร่วงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรให้เฟิร์นได้รับแสงแดดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาใบเหลืองเฉา ส่วนการให้ปุ๋ยควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแบบละลายน้ำ โดยฉีดพ่นเป็นละอองเบา ๆ และให้ปุ๋ยเพียงเดือนละครั้งก็พอค่ะ
3. เดหลี

ลักษณะทั่วไป
เดหลีเป็นไม้ในร่มที่ฮิตไม่น้อย เพราะมีใบสีเขียวเข้มมันวาว แถมยังให้ดอกสีขาวแกมเหลืองสวยงามคล้ายดอกหน้าวัว ลำต้นมีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร นิยมปลูกในบ้านเพราะเป็นพืชที่ดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอไรเอทีรีน เบนซีน และฟอร์มาลดีไฮด์ รวมทั้งช่วยฟอกอากาศได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งดอกเดหลีสามารถออกดอกได้ในอาคารแม้จะเจอเพียงแค่แสงจากหลอดไฟนีออนเท่านั้น
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
ส่วนใหญ่เราจะปลูกเดหลีในกระถาง โดยใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และทรายหยาบผสมในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน สำหรับการรดน้ำควรหมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มอยู่เสมอ และบำรุงด้วยปุ๋ยคอกละลายน้ำ เดือนละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดใบไม้เป็นประจำ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดใบ เพื่อป้องกันแมลงกัดใบด้วยค่ะ
4. เศรษฐีเรือนใน

ลักษณะทั่วไป
เศรษฐีเรือนในเป็นไม้กอขนาดเล็ก ลักษณะใบเป็นใบเล็กเรียวสีเขียวอ่อน ๆ ตลอดใบ ตรงกลางใบไม้เป็นแถบสีขาวยาวตลอดทั้งใบเช่นกัน ความยาวของใบมีขนาดประมาณ 15-30 เซนติเมตร นิยมปลูกภายในอาคารเพราะเป็นพืชที่มีความสามารถในการดูดสารพิษ และฟอกอากาศได้ นอกจากนี้ต่างชาติยังเรียกว่า ต้นแมงมุม (Spider Plant) หรือ ต้นเครื่องบิน (Airplane Plant) เนื่องจากต้นจะแกว่งไป-มาเวลาที่ถูกลมพัด รวมทั้งยังเป็นต้นไม้มงคลที่ปลูกแล้วเชื่อว่าจะทำให้ร่ำรวยเหมือนชื่อต้นอีกด้วย
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
เศรษฐีเรือนในเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี นิยมปลูกในกระถางขนาดเล็กแบบแขวน สามารถปลูกได้ในที่ร่ม แต่ควรให้แดดส่องถึงพอประมาณ รวมทั้งควรรดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือสังเกตหน้าดินว่าแห้งหรือไม่ก็พอ เนื่องจากต้นเศรษฐีเรือนในไม่ค่อยชอบแดดและน้ำมากนัก อีกทั้งยังสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายมากด้วยการตัดไปปลูกใหม่
5. หมากเหลือง

ลักษณะทั่วไป
จัดว่าเป็นพืชที่นิยมปลูกภายในอาคารอีกชนิดหนึ่ง ด้วยความที่มีขนาดลำต้นไม่สูงมากนัก ประมาณ 5-10 เมตร และเป็นพืชตระกูลปาล์มที่ดูแลง่าย มีความทนทาน จึงสามารถปลูกในร่มได้ ลักษณะของใบออกสีเขียวแซมเหลืองปลาย ๆ ใบมีความอ่อนพลิ้วคล้ายขนนก ดูอ่อนช้อยสวยงาม นอกจากนี้หมากเหลืองยังเป็นพืชที่คายน้ำมาก ขนาดต้นประมาณเกือบ 2 เมตร สามารถคายน้ำได้มากถึง 1 ลิตรในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถดูดสารพิษ และฟอกอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
เนื่องจากต้นหมากเหลืองเป็นพืชที่ดูแลง่าย จึงรดน้ำในช่วงเช้าเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ และพยายามอย่ารดน้ำจนดินแฉะมากเกินไปด้วย เพราะรากและใบอาจเน่าตายได้ ส่วนปุ๋ยควรให้ปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง รวมทั้งหมั่นฉีดละอองน้ำทำความสะอาดใบบ่อย ๆ เพื่อป้องกันปัญหาแมลงกัดกินใบ ทั้งนี้ ควรวางกระถางต้นหมากเหลืองไว้ตรงบริเวณที่แสงแดดส่องถึง หรือยกไปตากแดดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อให้ต้นไม้ได้คายน้ำ และสังเคราะห์แสงด้วยค่ะ
6. เงินไหลมา

ลักษณะทั่วไป
ต้นเงินไหลมาเป็นเถาไม้เลื้อยขนาดเล็ก ลักษณะต้นจะออกกลม ๆ ดูน่ารัก ส่วนลักษณะใบจะคล้ายใบบอน มีสีเขียวอ่อนผสมสีเหลืองจาง ๆ และมีลายของใบเป็นเส้นตรงสีเงิน โคนใบเว้าลึกมองดูคล้ายรูปหัวใจ อีกทั้งด้วยชื่อและลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ ก็ทำให้คนนิยมปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ต้นเงินไหลมายังมีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษภายในอาคารอีกด้วยค่ะ
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
ต้นเงินไหลมาเป็นพืชที่ชอบอยู่ในที่ร่ม ต้องการเพียงแค่แสงแดดรำไร แต่ควรรดน้ำให้สม่ำเสมอ ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันใบแห้ง เป็นสีน้ำตาล และเหี่ยวตาย นอกจากนี้ควรให้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ปริมาณ 300-500 กรัม ต่อครั้ง โดยใส่ปุ๋ยเดือนละ 1-2 ครั้งก็พอ
7. กวักมรกต

ลักษณะทั่วไป
ต้นไม้ชื่อมงคลอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกในอาคารบ้านเรือน เพราะเป็นต้นไม้ในร่มที่สวยงาม แถมมีนามเป็นมงคล ลักษณะลำต้นเป็นหัวใต้ดิน แตกใบย่อยเป็นสีเขียวมรกตเฉดเข้ม ใบแข็งและเป็นมัน สื่อถึงความมั่งคั่ง และความราบรื่น ส่วนดอกเป็นช่อ มีลักษณะคล้ายดอกเดหลี คนส่วนใหญ่นิยมปลูกต้นกวักมรกตเป็นไม้ประดับภายในบ้าน เนื่องจากดูแลง่าย ไม่ค่อยพบปัญหาโรคพืช หรือแมลงมารบกวน
วิธีการปลูกและดูแลรักษา

ลักษณะทั่วไป
พรมกำมะหยี่ หรือชื่ออื่น ๆ คือ พรมญี่ปุ่น หูเสือ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ ไม่ชอบแดดจัด แต่ชอบความชื้น ปลูกง่าย ความพิเศษอยู่ตรงที่ส่วนใบและดอกมีขนปกคลุมคล้ายลักษณะของพรมหรือกำมะหยี่ มีลวดลายและสีสันของใบที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพันธุ์ ทั้งใบสีเขียวเข้ม เขียวอ่อน น้ำตาลแดง เทา และสีทองแดง ส่วนปลายใบแหลมงุ้มน้อย ๆ ขอบใบหยักมน นอกจากนี้พรมกำมะหยี่ยังมีดอกเล็ก ๆ กลีบดอกมี 5 กลีบ สีสันสดใสอย่างสีขาว แดง ม่วง ชมพู ส้ม เหลือง เป็นต้น จึงเหมาะที่จะนำไปปลูกประดับความสวยงามภายในบ้าน
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
9. เขียวหมื่นปี

ลักษณะทั่วไป
ลำต้นไม่สูงมากนัก จัดเป็นไม้กอที่มีลำต้นและใบเป็นสีเขียวแซมขาวจาง ๆ ตัวใบเป็นปลายแหลม ใบค่อนข้างมีขนาดใหญ่มีลวดลายสวยงาม และมักจะขึ้นเป็นกอ เขียวหมื่นปีเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกในอาคาร เพราะทนทาน ไม่ต้องดูแลมาก สามารถทนทานต่ออากาศที่แห้ง และความชื้นต่ำ ที่สำคัญเป็นพืชที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด เติบโตได้เป็นอย่างดีแม้จะได้รับเพียงแสงแดดรำไรน้อยนิด แถมยังดูดสารพิษประเภทฟอร์มาลดีไฮด์ และช่วยฟอกอากาศได้ดีในระดับปานกลางเลยทีเดียว
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
10. มรกตแดง

ลักษณะทั่วไป
วิธีการปลูกและดูแลรักษา

ลักษณะทั่วไป
เป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่นิยมปลูกในที่ร่ม เพราะสาวน้อยประแป้งเป็นพืชที่มีความสามารถในการปรับตัว และเจริญเติบโตได้ดีในสถานที่ที่แห้งแล้ง และอบอุ่น แถมยังมีคุณสมบัติในเรื่องช่วยฟอกอากาศ อีกทั้งลักษณะใบเป็นรูปวงรีขนาดใหญ่ มีลวดลายสวยงามต่างกันตามแต่ละชนิดพันธุ์ จึงทำให้สามารถดูดสารพิษภายในอาคารได้มากยิ่งขึ้น แต่ลักษณะเด่น คือ ใบจะมีลวดลายคล้ายหยดแป้งสีขาวกระจายประปรายอยู่เต็มใบ สมกับชื่อสาวน้อยประแป้งเลยล่ะค่ะ
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
12. ว่านเสน่ห์จันทร์
ลักษณะทั่วไป
ว่านเสน่ห์จันทร์เป็นไม้มงคลที่มีมาแต่โบราณ นิยมปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลในบ้าน โดยเฉพาะเสริมความมงคลในด้านการค้า และเสน่ห์เมตตามหานิยม อีกทั้งยังเป็นพืชที่ปลูกในที่ร่มได้ เนื่องจากไม่ค่อยชอบแดดมากนัก ลักษณะก้านใบกลมเรียวเล็ก เป็นสีเขียวเสมอกันตลอดก้าน ใบเป็นรูปหัวใจ มีลายเส้นลึกแผ่กระจายทั้งใบ ไล่สีเขียวเข้มจากตรงกลางใบ แล้วเป็นสีเขียวอ่อนที่ปลายใบ ใบมีความมันวาวเล็กน้อย ลักษณะโดยรวมดูแล้วสวยงาม เหมาะแก่การนำไปประดับภายในบ้านมากเลยทีเดียว
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
ก่อนปลูกว่านให้ผสมดินร่วนกับอิฐเผาไฟทุบละเอียด จากนั้นนำไปตากน้ำค้างทิ้งไว้ 1 คืน แล้วจึงค่อยนำดินมาใส่กระถาง ปักหัวหัวว่าน แล้วกลบดินให้แน่นพอประมาณ เสร็จแล้วพรมน้ำให้ชุ่ม นำกระถางไปตั้งตรงที่ที่มีแสงแดดส่องผ่านรำไร นอกจากนี้ต้องหมั่นใส่ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง รวมทั้งหมั่นเช็ดทำความสะอาดใบให้เงางามอยู่เสมอด้วยนะคะ
ได้รู้จักกับต้นไม้ในร่มที่คุณสามารถเลือกไปปลูกประดับบ้านได้แล้ว แถมบางต้นยังมีชื่อเสียงเรียงนามเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อีกทั้งยังช่วยดูดสารพิษและฟอกอากาศในบ้านให้สดชื่นขึ้นอีกด้วย ดังนั้นหากกำลังมองหาต้นไม้ในร่มไปปลูกอยู่ ก็อย่าลืมเก็บต้นไม้ในร่มเหล่านี้ไปพิจารณานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก ๑๐๘ พรรณไม้ไทย/กล้วยไม้, ๑๐๘ พรรณไม้ไทย/บอสตันเฟิร์น, ๑๐๘ พรรณไม้ไทย/เดหลี, ๑๐๘ พรรณไม้ไทย/เศรษฐีเรือนใน, thaigoodview/หมากเหลือง, maipradabonline, the-than และ ๑๐๘ พรรณไม้ไทย/เขียวหมื่นปี